หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

การจัดการข้อมูลการชำระเงินที่ไม่บังคับด้วย Service Worker

วิธีปรับเปลี่ยนแอปการชำระเงินบนเว็บของคุณให้เป็น Web Payments และมอบประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า

Eiji Kitamura

เมื่อแอปการชำระเงินบนเว็บได้รับคำขอการชำระเงินและเริ่มการชำระเงิน ธุรกรรม โปรแกรมทำงานของบริการจะดำเนินการ เป็นฮับสำหรับการสื่อสารระหว่างผู้ขายกับแอปการชำระเงิน โพสต์นี้ อธิบายวิธีที่แอปการชำระเงินส่งผ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการชำระเงิน ที่อยู่สำหรับจัดส่งหรือข้อมูลติดต่อไปยังผู้ขายโดยใช้ Service Worker

การจัดการข้อมูลการชำระเงินที่ไม่บังคับกับ Service Worker

แจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการเปลี่ยนวิธีการชำระเงิน

แอปการชำระเงินรองรับเครื่องมือการชำระเงินที่หลากหลายโดยใช้วิธีการชำระเงินที่ต่างกัน

ลูกค้า	วิธีการชำระเงิน	เครื่องมือการชำระเงิน
A	ผู้ออกบัตรเครดิต 1	`****1234`
	ผู้ออกบัตรเครดิต 1	`****4242`
	ธนาคาร X	`******123`
B	ผู้ออกบัตรเครดิต 2	`****5678`
B	ธนาคาร X	`******456`

ตัวอย่างเช่น ในตารางด้านบน กระเป๋าเงินบนเว็บของลูกค้า ก มีเครดิต 2 เครดิต บัตร และบัญชีธนาคาร 1 บัญชีที่ลงทะเบียนไว้ ในกรณีนี้ แอปมีการจัดการ เครื่องมือการชำระเงิน (****1234, ****4242, ******123) และการชำระเงินสองรายการ (ผู้ออกบัตรเครดิต 1 และธนาคาร ก.) เมื่อทำธุรกรรมการชำระเงิน การชำระเงิน ให้ลูกค้าเลือกเครื่องมือการชำระเงินรายการใดรายการหนึ่งและใช้เครื่องมือดังกล่าวเพื่อชำระเงิน สำหรับผู้ขาย

แอปการชำระเงินแจ้งให้ผู้ขายทราบว่าลูกค้าใช้วิธีการชำระเงินใดได้ ที่เลือกไว้ก่อนส่งการตอบกลับการชำระเงินเต็มจำนวน วิธีนี้มีประโยชน์เมื่อ ผู้ขายต้องการใช้งานแคมเปญส่วนลดสำหรับแบรนด์วิธีการชำระเงินที่เจาะจง เป็นต้น

Payment Handler API ช่วยให้แอปการชำระเงินส่ง "การเปลี่ยนวิธีการชำระเงิน" ได้ ให้กับผู้ขายผ่าน Service Worker เพื่อแจ้งวิธีการชำระเงินใหม่ ของคุณ โปรแกรมทำงานของบริการควรเรียกใช้ PaymentRequestEvent.changePaymentMethod() ด้วยวิธีการชำระเงินใหม่

แจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการเปลี่ยนวิธีการชำระเงิน

แอปการชำระเงินสามารถส่งออบเจ็กต์ methodDetails เป็นอาร์กิวเมนต์ที่ 2 หรือไม่ก็ได้ สำหรับ PaymentRequestEvent.changePaymentMethod() ออบเจ็กต์นี้มี ผู้ขายต้องระบุรายละเอียดวิธีการชำระเงินที่กำหนดเองเพื่อประมวลผลการเปลี่ยนแปลง กิจกรรม

[เครื่องจัดการการชำระเงิน] service-worker.js

…
// Received a message from the frontend
self.addEventListener('message', async e => {
  let details;
  try {
    switch (e.data.type) {
      …
      case 'PAYMENT_METHOD_CHANGED':
        const newMethod = e.data.paymentMethod;
        const newDetails = e.data.methodDetails;
        // Redact or check that no sensitive information is passed in
        // `newDetails`.
        // Notify the merchant of the payment method change
        details =
          await payment_request_event.changePaymentMethod(newMethod, newDetails);
      …

เมื่อผู้ขายได้รับเหตุการณ์ paymentmethodchange จากการชําระเงิน ส่งคำขอ API ทางธนาคารจะสามารถอัปเดตรายละเอียดการชำระเงิน และตอบกลับด้วย PaymentDetailsUpdate ออบเจ็กต์

[ผู้ขาย]

request.addEventListener('paymentmethodchange', e => {
  if (e.methodName === 'another-pay') {
    // Apply $10 discount for example.
    const discount = {
      label: 'special discount',
      amount: {
        currency: 'USD',
        // The value being string complies the spec
        value: '-10.00'
      }
    };
    let total = 0;
    details.displayItems.push(discount);
    for (let item of details.displayItems) {
     total += parseFloat(item.amount.value);
    }
    // Convert the number back to string
    details.total.amount.value = total.toString();
  }
  // Pass a promise to `updateWith()` and send updated payment details
  e.updateWith(details);
});

เมื่อผู้ขายตอบกลับ สัญญาว่า PaymentRequestEvent.changePaymentMethod() ผลลัพธ์จะเป็นค่า PaymentRequestDetailsUpdate ออบเจ็กต์

[เครื่องจัดการการชำระเงิน] service-worker.js

…
        // Notify the merchant of the payment method change
        details = await payment_request_event.changePaymentMethod(newMethod, newDetails);
        // Provided the new payment details,
        // send a message back to the frontend to update the UI
        postMessage('UPDATE_REQUEST', details);
        break;
…

ใช้ออบเจ็กต์เพื่ออัปเดต UI บนฟรอนท์เอนด์ ดูแสดงข้อมูลที่อัปเดตแล้ว รายละเอียดการชำระเงิน

แจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่อยู่สำหรับจัดส่ง

แอปการชำระเงินสามารถให้ที่อยู่สำหรับจัดส่งของลูกค้าแก่ผู้ขายเป็นส่วนหนึ่งของแอปการชำระเงินได้ ของธุรกรรมการชำระเงิน

ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ขาย เนื่องจากผู้ขายสามารถมอบสิทธิ์การรวบรวมที่อยู่ให้กับ แอปการชำระเงิน และเนื่องจากข้อมูลที่อยู่จะระบุไว้ในมาตรฐาน รูปแบบข้อมูล ผู้ขายจะได้รับที่อยู่สำหรับจัดส่งในโครงสร้างที่สอดคล้องกัน

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถลงทะเบียนข้อมูลที่อยู่กับ แอปการชำระเงินที่ต้องการและนำกลับมาใช้ซ้ำสำหรับผู้ขายรายอื่น

แอปการชำระเงินมี UI เพื่อแก้ไขที่อยู่สำหรับจัดส่งหรือเพื่อเลือก ข้อมูลที่อยู่ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับลูกค้าในธุรกรรมการชำระเงิน เมื่อมีการระบุที่อยู่สำหรับจัดส่งชั่วคราว แอปการชำระเงินสามารถอนุญาตให้ ผู้ขายทราบข้อมูลที่อยู่ที่ปกปิด ซึ่งช่วยให้ผู้ขาย ประโยชน์หลายประการ:

ผู้ขายระบุได้ว่าลูกค้ามีคุณสมบัติตามข้อจำกัดระดับภูมิภาคหรือไม่ เพื่อจัดส่งสินค้า (เช่น ภายในประเทศเท่านั้น)
ผู้ขายสามารถเปลี่ยนรายการตัวเลือกการจัดส่งได้ตามภูมิภาคของ ที่อยู่สำหรับจัดส่ง (เช่น การจัดส่งระหว่างประเทศหรือจัดส่งด่วน)
ผู้ขายจะใช้ค่าจัดส่งใหม่ตามที่อยู่ได้และอัปเดต ราคารวม

Payment Handler API ช่วยให้แอปการชำระเงินส่ง "ที่อยู่จัดส่ง" ได้ เปลี่ยน" เหตุการณ์จาก Service Worker ไปยังผู้ขายเพื่อแจ้งการจัดส่งใหม่ ที่อยู่ โปรแกรมทำงานของบริการควรเรียกใช้ PaymentRequestEvent.changeShippingAddress() ด้วย ที่อยู่ใหม่ ออบเจ็กต์

แจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่อยู่สำหรับจัดส่ง

[เครื่องจัดการการชำระเงิน] service-worker.js

...
// Received a message from the frontend
self.addEventListener('message', async e => {
  let details;
  try {
    switch (e.data.type) {
      …
      case 'SHIPPING_ADDRESS_CHANGED':
        const newAddress = e.data.shippingAddress;
        details =
          await payment_request_event.changeShippingAddress(newAddress);
      …

คำสำคัญ: ที่อยู่ที่ปกปิด คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งที่อยู่สำหรับจัดส่งแบบเต็มให้ผู้ขายทราบในกรณีนี้ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงของลูกค้า ความเป็นส่วนตัว ผู้ขายได้รับเฉพาะบางส่วนของที่อยู่ที่ต้องใช้ในการกำหนดค่าจัดส่ง กล่าวคือ เบราว์เซอร์จะล้างช่อง organization, phone, recipient, addressLine ออกจากแอปการชำระเงินที่ระบุไว้ก่อนเพิ่มเหตุการณ์ shippingaddresschange ใน DOM ของผู้ขาย

ผู้ขายจะได้รับเหตุการณ์ shippingaddresschange จากการชำระเงิน ขอ API เพื่อให้ตอบกลับด้วย PaymentDetailsUpdate ที่อัปเดตแล้ว

[ผู้ขาย]

request.addEventListener('shippingaddresschange', e => {
  // Read the updated shipping address and update the request.
  const addr = request.shippingAddress;
  const details = getPaymentDetailsFromShippingAddress(addr);
  // `updateWith()` sends back updated payment details
  e.updateWith(details);
});

เมื่อผู้ขายตอบรับ คำมั่นสัญญา PaymentRequestEvent.changeShippingAddress() ผลลัพธ์จะเป็นค่า PaymentRequestDetailsUpdate ออบเจ็กต์

[เครื่องจัดการการชำระเงิน] service-worker.js

…
        // Notify the merchant of the shipping address change
        details = await payment_request_event.changeShippingAddress(newAddress);
        // Provided the new payment details,
        // send a message back to the frontend to update the UI
        postMessage('UPDATE_REQUEST', details);
        break;
…

แจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตัวเลือกการจัดส่ง

ตัวเลือกการจัดส่งคือวิธีการจัดส่งที่ผู้ขายใช้เพื่อจัดส่งสินค้าที่ซื้อไปยังลูกค้า ตัวเลือกการจัดส่งทั่วไปมีดังนี้

จัดส่งฟรี
การจัดส่งด่วน
การจัดส่งระหว่างประเทศ
การจัดส่งระหว่างประเทศแบบพรีเมียม

โดยแต่ละประเภทจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป โดยปกติแล้ววิธีการ/ตัวเลือกที่เร็วกว่าจะมีราคาแพงกว่า

ผู้ขายที่ใช้ Payment Request API สามารถมอบสิทธิ์การเลือกนี้ให้กับการชำระเงินได้ แอป แอปการชำระเงินสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อสร้าง UI และให้ ลูกค้าเลือกตัวเลือกการจัดส่ง

รายการตัวเลือกการจัดส่งที่ระบุใน Payment Request API ของผู้ขายคือ เผยแพร่ไปยัง Service Worker ของแอปการชำระเงินโดยเป็นพร็อพเพอร์ตี้ของ PaymentRequestEvent

[ผู้ขาย]

const request = new PaymentRequest([{
  supportedMethods: 'https://bobbucks.dev/pay',
  data: { transactionId: '****' }
}], {
  displayItems: [{
    label: 'Anvil L/S Crew Neck - Grey M x1',
    amount: { currency: 'USD', value: '22.15' }
  }],
  shippingOptions: [{
    id: 'standard',
    label: 'Standard',
    amount: { value: '0.00', currency: 'USD' },
    selected: true
  }, {
    id: 'express',
    label: 'Express',
    amount: { value: '5.00', currency: 'USD' }
  }],
  total: {
    label: 'Total due',
    amount: { currency: 'USD', value : '22.15' }
  }
}, {  requestShipping: true });

แอปการชำระเงินช่วยให้ผู้ขายทราบว่าลูกค้าเลือกตัวเลือกการจัดส่งใดได้ เลือกไว้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งผู้ขายและลูกค้าเนื่องจาก การเปลี่ยนตัวเลือกการจัดส่งจะเปลี่ยนแปลงราคารวมด้วย ผู้ขายต้องการ เพื่อรับราคาล่าสุดสำหรับการยืนยันการชำระเงินในภายหลัง และ ลูกค้าก็จำเป็นต้องรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงด้วย

เมื่อใช้ Payment Handler API แอปการชำระเงินจะส่ง "ตัวเลือกการจัดส่ง เปลี่ยน" เหตุการณ์จาก Service Worker ไปยังผู้ขาย โปรแกรมทำงานของบริการควร เรียกใช้ PaymentRequestEvent.changeShippingOption() ที่มีรหัสตัวเลือกการจัดส่งใหม่

แจ้งผู้ขายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตัวเลือกการจัดส่ง

[เครื่องจัดการการชำระเงิน] service-worker.js

…
// Received a message from the frontend
self.addEventListener('message', async e => {
  let details;
  try {
    switch (e.data.type) {
      …
      case 'SHIPPING_OPTION_CHANGED':
        const newOption = e.data.shippingOptionId;
        details =
          await payment_request_event.changeShippingOption(newOption);
      …

ผู้ขายจะได้รับเหตุการณ์ shippingoptionchange จากการชำระเงิน ส่งคำขอ API ผู้ขายควรใช้ข้อมูลเพื่ออัปเดตราคารวม และตอบกลับด้วย PaymentDetailsUpdate

[ผู้ขาย]

request.addEventListener('shippingoptionchange', e => {
  // selected shipping option
  const shippingOption = request.shippingOption;
  const newTotal = {
    currency: 'USD',
    label: 'Total due',
    value: calculateNewTotal(shippingOption),
  };
  // `updateWith()` sends back updated payment details
  e.updateWith({ total: newTotal });
});

เมื่อผู้ขายตอบกลับ สัญญาว่า PaymentRequestEvent.changeShippingOption() ผลลัพธ์จะเป็นค่า PaymentRequestDetailsUpdate ออบเจ็กต์

[เครื่องจัดการการชำระเงิน] service-worker.js

…
        // Notify the merchant of the shipping option change
        details = await payment_request_event.changeShippingOption(newOption);
        // Provided the new payment details,
        // send a message back to the frontend to update the UI
        postMessage('UPDATE_REQUEST', details);
        break;
…

แสดงรายละเอียดการชำระเงินที่อัปเดต

เมื่อผู้ขายอัปเดตรายละเอียดการชำระเงินเสร็จแล้ว สัญญาที่ส่งคืน จาก .changePaymentMethod(), .changeShippingAddress() และ .changeShippingOption() จะแก้ไขโดยใช้ PaymentRequestDetailsUpdate ออบเจ็กต์ เครื่องจัดการการชำระเงินสามารถใช้ผลลัพธ์เพื่อแสดงราคารวมที่อัปเดต และตัวเลือกการจัดส่งลงใน UI

หมายเหตุ: ออบเจ็กต์ PaymentRequestDetailsUpdate ถูกส่งมาจากผู้ขายและมีข้อมูลที่ถูกต้องซึ่งผู้ขายใส่ไว้ในออบเจ็กต์ PaymentDetailsUpdate ผ่าน Payment Request API วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบว่าผู้ขายให้ข้อมูลตามที่คุณคาดหวังคือแสดงเอกสารประกอบสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดี หรือให้ไลบรารี JavaScript เพื่อควบคุมข้อมูลดังกล่าว หรือทั้ง 2 อย่าง

ผู้ขายอาจแสดงข้อผิดพลาดเนื่องจากสาเหตุ 2-3 ประการ ดังนี้

ระบบไม่ยอมรับวิธีการชำระเงิน
ที่อยู่สำหรับจัดส่งอยู่นอกภูมิภาคที่รองรับ
ที่อยู่สำหรับจัดส่งมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
ไม่สามารถเลือกตัวเลือกการจัดส่งสำหรับที่อยู่สำหรับจัดส่งที่ระบุหรือ ด้วยเหตุผลอื่น

โปรดใช้พร็อพเพอร์ตี้ต่อไปนี้เพื่อแสดงสถานะข้อผิดพลาด

error: สตริงข้อผิดพลาดที่มนุษย์อ่านได้ นี่คือสตริงที่ดีที่สุดที่จะแสดง ให้แก่ลูกค้า
shippingAddressErrors AddressErrors ที่มีสตริงข้อผิดพลาดโดยละเอียดต่อพร็อพเพอร์ตี้ที่อยู่ นี่คือ มีประโยชน์ หากคุณต้องการเปิดแบบฟอร์มที่ให้ลูกค้าแก้ไขที่อยู่ของตนได้ และคุณต้องชี้เมาส์ไปยังช่องที่ไม่ถูกต้องโดยตรง
paymentMethodErrors: ออบเจ็กต์ข้อผิดพลาดเฉพาะวิธีการชำระเงิน คุณสามารถถาม ระบุข้อผิดพลาดที่มีโครงสร้าง แต่ผู้เขียนข้อกำหนดของการชำระเงินบนเว็บ ขอแนะนำให้ใช้สตริงง่ายๆ

โค้ดตัวอย่าง

โค้ดตัวอย่างส่วนใหญ่ที่คุณเห็นในเอกสารนี้เป็นข้อความที่ตัดตอนมาจากรายการต่อไปนี้ แอปตัวอย่างที่ใช้งานได้:

https://paymenthandler-demo.glitch.me

Service Worker [เครื่องจัดการการชำระเงิน]

ฟรอนท์เอนด์ [เครื่องจัดการการชำระเงิน]

วิธีทดลองใช้มีดังนี้

ไปที่ https://paymentrequest-demo.glitch.me/
ไปที่ด้านล่างสุดของหน้า
กดปุ่มเพิ่มการชำระเงิน
ป้อน https://paymenthandler-demo.glitch.me ลงในช่องตัวระบุวิธีการชำระเงิน
กดปุ่มชำระเงินข้างช่อง